"แบงก์กรุงเทพ"รุกขยายฐานคนรุ่นใหม่ ทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งผ่านสโมสรเชลซีในไทย เตรียมออกบัตรเครดิต-เดบิตกลางปีหน้า
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสโมสรฟุตบอลเชลซีการในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้แนวคิด ‘One Team One Spirit’ หรือ ‘เชลซีทำได้ คนไทยทำได้’ ที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันผ่านการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านกีฬา(Sport Marketing) ครั้งแรกของธนาคาร ที่จะช่วยในเรื่องของแบรนด์ของธนาคารให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ธนาคารยังมีอยู่ไม่มากนักอีกด้วย
ปัจจุบันแฟนของสโมสรเชลซีทั่วโลกมีกว่า 400 ล้านคนและเป็นคนไทย 5-6 ล้านคน ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ซึ่งฐานลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่กว่า 16 ล้านบัญชียังมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่น้อยมาก โดยลูกค้าที่อายุต่ำกว่า 25 ปีในขณะนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 30% ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในแง่ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นธนาคารจะมีแคมเปญร่วมกับเชลซีทั้งบัตรเครดิตและเดบิตในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะการขยายฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวช่วยผลักดันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรได้ด้วย เพราะเชลซีเองก็มีพันธมิตรอื่น ๆ ที่ทำงานร่วมกันอยู่ด้วย
“ความร่วมมือกับเชลซี ข้อแรกคือเรามีสีเดียวกันคือสีน้ำเงิน และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของสโมสรเชลซีรวดเร็วมาก โดยเฉพาะคนเจนเนอเรชั่นใหม่ ๆ และฟุตบอลยังเป็นกีฬาของครอบครัว ซึ่งเป้าหมายของธนาคารคือการเติบโตไปกับลูกค้าทุกช่วงวัย แต่ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ยังมีอยู่น้อย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าวัยกลางคน ซึ่งธนาคารมองว่าการทำการตลาดด้วยกีฬาจะมีความยั่งยืนมากกว่า”
ทางด้านนายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในปีหน้าธนาคารจะทำการตลาดมากขึ้นและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้เริ่มทำงานมากขึ้น โดย
บัตรเครดิตร่วมธนาคารกรุงเทพ-เชลซีคาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ ลีก โดยคาดว่าเป้าหมายขยายฐานบัตรเครดิตในปีหน้าที่ 5 แสนบัตรจะมาจากแฟนสโมสรเชลซีประมาณ 1 แสนบัตร เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เข้าข่ายสมัครบัตรเครดิตและผ่านระบบสกอริ่งของธนาคารยังมีไม่มากนัก
ในปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเพิ่มขึ้น 12% ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่ฐานบัตรเครดิตในปัจจุบันมีอยู่ 1.7 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นมา 4 แสนบัตรตามเป้าหมายเช่นกัน โดยในปีหน้าธนาคารเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นกลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจะมีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น ขณะที่การว่างงานในประเทศยังอยู่ระดับต่ำ ทำให้ลูกค้าคาดว่าธนาคารมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น 15% และตั้งเป้าหมายว่าจะขยายฐานบัตรใหม่อีก 5 แสนบัตร
“กลุ่มเด็กจบใหม่ก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงมากขึ้น แต่เรามีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น โดยในขณะนี้เรามีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ถึง 10% แต่ในปีหน้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 10-15%”
สำหรับหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลจากบัตรเครดิตที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนั้น ธนาคารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้กำลังซื้อลดลง และมีการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติที่มี 1.5% เป็น 1.7-1.75% ซึ่งยังเป็นระดับที่ธนาคารับได้ เนื่องจากธนาคารยังมีเป้าหมายที่จะขยายฐานบัตรอยู่ ส่วนการปรับระบบการติดตามหนี้ในขณะนี้ยังต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับพรบ.ทวงหนี้ที่จะออกมาด้วย ซึ่งยอมรับว่าทำให้การติดตามหนี้มีความยุ่งยากมากขึ้น
ทั้งนี้กิจกรรมแรกที่ธนาคารกรุงเทพและสโมสรฟุตบอลเชลซีร่วมกันจัดขึ้น ได้แก่ แคมเปญมอบโชคแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเดบิตบีเฟิสต์สมาร์ทและบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ผู้ใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit) และผู้ถือบัตรเครดิต ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 แพ็กเกจทัวร์ลอนดอน 6 วัน 5 คืน รวมตั๋วเครื่องบินและที่พักโรงแรมพร้อมบัตรชมการแข่งขันฟุตบอล จำนวน 20 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง)
โดยผู้โชคดี 10 รางวัลแรกจะได้รับบัตรชมการแข่งขันฟุตบอลคู่เชลซีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 18 เมษายน 2558 และผู้โชคดีอีก 10 รางวัล จะได้รับบัตรชมการแข่งขันฟุตบอลคู่เชลซีกับลิเวอร์พูล ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 รางวัลที่ 2 เสื้อฟุตบอลทีมเชลซีพร้อมลายเซ็นนักฟุตบอล จำนวน 12 รางวัล และรางวัลที่ 3 เสื้อฟุตบอลทีมเชลซีไม่มีลายเซ็น จำนวน 36 รางวัล
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20141225/625263/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.html
ธนาคารกรุงเทพเตรียมออก "บัตรเครดิตร่วมธนาคารกรุงเทพ-เชลซี" ภายในปีหน้า
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสโมสรฟุตบอลเชลซีการในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้แนวคิด ‘One Team One Spirit’ หรือ ‘เชลซีทำได้ คนไทยทำได้’ ที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันผ่านการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งเป็นการทำการตลาดผ่านกีฬา(Sport Marketing) ครั้งแรกของธนาคาร ที่จะช่วยในเรื่องของแบรนด์ของธนาคารให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ธนาคารยังมีอยู่ไม่มากนักอีกด้วย
ปัจจุบันแฟนของสโมสรเชลซีทั่วโลกมีกว่า 400 ล้านคนและเป็นคนไทย 5-6 ล้านคน ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 45 ปี ซึ่งฐานลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่กว่า 16 ล้านบัญชียังมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่น้อยมาก โดยลูกค้าที่อายุต่ำกว่า 25 ปีในขณะนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 30% ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 35% ในแง่ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินนั้นธนาคารจะมีแคมเปญร่วมกับเชลซีทั้งบัตรเครดิตและเดบิตในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะการขยายฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวช่วยผลักดันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรได้ด้วย เพราะเชลซีเองก็มีพันธมิตรอื่น ๆ ที่ทำงานร่วมกันอยู่ด้วย
“ความร่วมมือกับเชลซี ข้อแรกคือเรามีสีเดียวกันคือสีน้ำเงิน และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของสโมสรเชลซีรวดเร็วมาก โดยเฉพาะคนเจนเนอเรชั่นใหม่ ๆ และฟุตบอลยังเป็นกีฬาของครอบครัว ซึ่งเป้าหมายของธนาคารคือการเติบโตไปกับลูกค้าทุกช่วงวัย แต่ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ยังมีอยู่น้อย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าวัยกลางคน ซึ่งธนาคารมองว่าการทำการตลาดด้วยกีฬาจะมีความยั่งยืนมากกว่า”
ทางด้านนายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในปีหน้าธนาคารจะทำการตลาดมากขึ้นและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้เริ่มทำงานมากขึ้น โดยบัตรเครดิตร่วมธนาคารกรุงเทพ-เชลซีคาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 3 เนื่องจากเป็นช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ ลีก โดยคาดว่าเป้าหมายขยายฐานบัตรเครดิตในปีหน้าที่ 5 แสนบัตรจะมาจากแฟนสโมสรเชลซีประมาณ 1 แสนบัตร เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เข้าข่ายสมัครบัตรเครดิตและผ่านระบบสกอริ่งของธนาคารยังมีไม่มากนัก
ในปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเพิ่มขึ้น 12% ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่ฐานบัตรเครดิตในปัจจุบันมีอยู่ 1.7 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นมา 4 แสนบัตรตามเป้าหมายเช่นกัน โดยในปีหน้าธนาคารเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นกลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจจะมีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น ขณะที่การว่างงานในประเทศยังอยู่ระดับต่ำ ทำให้ลูกค้าคาดว่าธนาคารมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น 15% และตั้งเป้าหมายว่าจะขยายฐานบัตรใหม่อีก 5 แสนบัตร
“กลุ่มเด็กจบใหม่ก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงมากขึ้น แต่เรามีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น โดยในขณะนี้เรามีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ถึง 10% แต่ในปีหน้าเราตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 10-15%”
สำหรับหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลจากบัตรเครดิตที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนั้น ธนาคารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้กำลังซื้อลดลง และมีการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติที่มี 1.5% เป็น 1.7-1.75% ซึ่งยังเป็นระดับที่ธนาคารับได้ เนื่องจากธนาคารยังมีเป้าหมายที่จะขยายฐานบัตรอยู่ ส่วนการปรับระบบการติดตามหนี้ในขณะนี้ยังต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับพรบ.ทวงหนี้ที่จะออกมาด้วย ซึ่งยอมรับว่าทำให้การติดตามหนี้มีความยุ่งยากมากขึ้น
ทั้งนี้กิจกรรมแรกที่ธนาคารกรุงเทพและสโมสรฟุตบอลเชลซีร่วมกันจัดขึ้น ได้แก่ แคมเปญมอบโชคแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรเดบิตบีเฟิสต์สมาร์ทและบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ผู้ใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit) และผู้ถือบัตรเครดิต ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 แพ็กเกจทัวร์ลอนดอน 6 วัน 5 คืน รวมตั๋วเครื่องบินและที่พักโรงแรมพร้อมบัตรชมการแข่งขันฟุตบอล จำนวน 20 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง)
โดยผู้โชคดี 10 รางวัลแรกจะได้รับบัตรชมการแข่งขันฟุตบอลคู่เชลซีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 18 เมษายน 2558 และผู้โชคดีอีก 10 รางวัล จะได้รับบัตรชมการแข่งขันฟุตบอลคู่เชลซีกับลิเวอร์พูล ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2558 รางวัลที่ 2 เสื้อฟุตบอลทีมเชลซีพร้อมลายเซ็นนักฟุตบอล จำนวน 12 รางวัล และรางวัลที่ 3 เสื้อฟุตบอลทีมเชลซีไม่มีลายเซ็น จำนวน 36 รางวัล
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้